วันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

บันทึกอนุทินครั้งที่ 5
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ความรู้ที่ได้รับ 

กิจกรรมวันนี้
  • ด้านซ้าย ถอดถุงมืออกมาแล้ววาดให้เหมือนจริง   
  • ด้านขาว ให้สวมถุงมือและสเก็ตรูปมือ

  
             จากกิจกรรม  จะเห็นได้ว่าการบันทึกการสังเกตพฤติกรรมของเด็กไม่ควรใช้การจำ ควรบันทึกตามที่เด็กทำพฤติกรรมต่างๆในขณะนั้น  ทำให้ได้ข้อมูลที่ไม่คลาดเคลื่อน เปรียบเสมือนมือของเราที่เห็นอยู่ทุกวันแต่เราก็ยังไม่สามารถจดจำลายละเอียดได้ทั้งหมด  

  
เนื้อหาที่เรียนในวันนี้เรื่อง  การสอนเด็กพิเศษเเละเด็กปกติ

ทักษะของครูและทัศนคติ 

การฝึกเพิ่มเติม
  • อบรมระยะสั้น หรือ สัมมนา 
  • สื่อต่างๆ เช่น โทรทัศน์ครู
การเข้าใจภาวะปกติ
  • เด็มักคล้ายคลึงกันมากกว่าแตกต่างกัน
  • ครูมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กปกติและเด็กพิเศษเท่ากัน
  • รู้จักแต่เเต่ละคน (ควรจำชื่อจริง ชื่อเล่นเด็กให้ได้ทุกคน)
  • มองเด็กให้เป็น"เด็ก"
การคัดแยกเด็กที่มีพัฒนาการช้า
     
           การเข้าใจพัฒนาการเด็กช่วยให้ ครูเข้าใจความเเตกต่างของเด็กแต่ละคนได้ง่าย
  
ความพร้อมของเด็ก
  • วุฒิภาวะ
  • เเรงจูงใจ
  • โอกาส  
การสอนโดยบังเอิญ
  • ให้เด็กเป็นฝ่ายเริ่ม
  • เมื่อเด็กเข้าหาครูมากเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสในการสอนมากขึ้นเท่านั้น
  • ครูต้องพร้อมที่จะพบเด็ก
  • ครูต้องมีความสนใจเด็ก
  • ครูต้องมีความรู้สึกที่ดีต่อเด็ก
  • ครูต้องมีอุปกรณ์และกิจกรรมที่ล่อใจเด็ก
  • ครูต้องมีความตั้งใจจริงในการช่วยให้เด็กแต่ละคนได้เรียนรู้
  • ครูต้องใช้เวลาในการติดต่อไม่นาน
  • ครูต้องทำให้เป็นเรื่องสนุกสนานเด็กอยู่ด้วยจะได้สบายใจ
อุปกรณ์
  • มีลักษณะง่ายๆ
  • ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง
  • เด็กพิเศษได้เรียนรู้จากการสังเกตและเลียนแบบเด็กปกติ
  • เด็กปกติเรียนรู้ที่จะให้ความช่วยเหลือเด็กพิเศษ
ทัศนคติของครู 
1. ความยืดหยุ่น
  • การเเก้แผนการสอนให้เหมาะสมกับสถานการณ์
  • ยอมรับขอบเขตความสามารถของเด็กได้
  • ครูต้องตอบสนองต่อเป้าหมายที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กแต่ละคน ข้อนี้สำคัญมาก!
2. การใช้สหวิทยาการ
  • ใจกว้างต่อคำแนะนำของบุคคลอาชีพอื่นๆ
  • สร้างความสัมพันธ์ระหว่างการบำบัดกับกิจกรรมในห้องเรียน
3.  เด็กทุกคนสอนได้
  • เด็กเรียนไม่ได้เพราะไร้ความสามารถ ครูไม่ควรมองเด็กแบบข้อนี้!
  • เด็กเรียนไม่ได้เพราะขาดโอกาส
4.  วิธีแสดงออกจากเเรงเสริมของผู้ใหญ่
  • ตอบสนองด้วยวาจา เช่น คำชมต่างๆ
  • การยืนหรือการนั่งใกล้เด็ก
  • พยักหน้ารับ ยิ้ม  ฟัง
  • สัมผัสทางกาย
  • ให้ความช่วยเหลือ  ร่วมกิจกรรมกับเด็ก
การเปลี่ยนพฤติกรรมและการเรียนรู้ 

เทคนิคการให้แรงเสริม

เเรงเสริมทางสังคมจากผู้ใหญ่
  • ความสนใจของผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็กนั้นสำคัญมาก
  • มีแนวโน้มจะเพิ่มพฤติกรรมที่ดีของเด็ก และมักเป็นผลในทันที
  • หากผู้ใหญ่ไม่สนใจพฤติกรรมที่ดีนั้นๆ ก็จะลดลงและหายไป
หลักการให้แรงเสริมในเด็กปฐมวัย
  • ครูต้องให้แรงเสริมทันทีที่เด็กแสดงพฤติกรรมอันพึงประสงค์
  • ครูต้องละเว้นความสนใจทันทีที่เด็กแสดงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์
  • ครูควรให้ความสนใจเด็กนานเท่าที่เด็กมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์
การแนะนำหรือบอกบท (prompting)
  • ย่อยงาน
  • ลำดับความยากง่ายของงาน
  • การลำดับงานเป็นการเสริมแรงเพื่อให้เด็กค่อยๆก้าวไปสู่ความสำเร็จ
  • การบอกบทจะค่อยๆน้อยลงตามลำดับ
ขั้นตอนการให้แรงเสริม
  • สังเกตและกำหนดจุดมุ่งหมาย
  • วิเคราะห์งาน  กำหนดจุดประสงค์ย่อยๆในงานแต่ละขั้น
  • สอนจากง่ายไปยาก
  • ให้เเรงเสริมทันทีเมื่อเด็กทำได้ หรือเพื่อเด็กพยายามอย่างเหมาะสม
  • ลดการบอกบท เมื่อเด็กเรียนรู้ที่จะก้าวในขั้นต่อไป
  • ให้เเรงเสริมเฉพาะพฤติกรรมที่ไกล้เคียงกับเป้าหมายที่สุด
  • ทีละขั้นไม่เร่งรัด"ยิ่งขั้นเล็กเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่านั้น" 
  • ไม่ดุหรือตี
การกำหนดเวลา
  • จำนวนและความถี่ของแรงเสริมที่ให้กับพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กต้องมีความเหมาะสม
ความต่อเนื่อง
  • พฤติกรรมทุกอย่างในชีวิตประจำวันต่อเนื่องกันระหว่างพฤติกรรมย่อยๆหลายๆอย่างรวมกัน
  • เช่น การเข้าห้องน้ำ  การนอนพักผ่อน  การหยิบและเก็บของ
  • สอนแบบก้าวไปข้างหน้า หรือย้อนมาจากข้างหลัง
การลดหรือหยุดแรงเสริม
  • ครูจะงดแรงเสริมกับเด็กที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
  • ทำอย่างอื่นและไม่สนใจเด็ก
  • เอาอุปกรณ์หรือของเล่นของไปจากเด็ก
  • เอาเด็กออกจากการเล่น
ความคงเส้นคงวา
  • ครูเริ่มกับเด็กมาอย่างไรต้องปฏิบัติแบบเดิมกับเด็ก
การนำไปใช้
  1. การสังเกตเด็กต้องบันทึกพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจริงและไม่ควรใช้การจำแล้วค่อยมาบันทึกเพราะจะทำให้ข้อมูลที่ได้คลาดเคลื่อน
  2. การปรับตัวให้มีทัศนะคติที่ดีกับเด็กเชื่อว่าเด็กทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน
  3. การนำการย่อยงานไปสอนเพื่อให้เด็กเข้าใจง่ายขึ้น
  4. การนำเทคนิคการเสริมแรงและลดแรงเสริมไปใช้เพื่อให้เด็กมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์
การประเมิน
ประเมินตนเอง   เข้าห้องตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจเรียนและทำกิจกรรม  อาจจะพูดมากในเวลาเรียนบางครั้ง แต่ก็มีจดเนื้อหาเพิ่มเติมบ้าง เข้าใจในบทเรียน

ประเมินเพื่อน  เเต่งกายเรียบร้อย  เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียนมีจดเนื้อหาเพิ่มเติมและมีส่วนร่วมในการเรียน ตอบคำถามได้เมื่ออาจารย์ถาม  ช่วยเก็บอุปกรณ์หลังทำกิจกรรทำเสร็จ

ประเมินอาจารย์  อาจารย์ใจดี น่ารัก เป็นที่ปรึกษาของนักศึกษาได้ดี เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายสุภาพ มีกิจกรรมมาให้ทำก่อนเรียนเสมอสอนเนื้อหาได้อย่างเข้าใจ และได้ทบทวนเพลงที่ืเคยร้องไป







บันทึกอนุทินครั้งที่ 4
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

หมายเหตุ

   ไม่มีการเรียนการสอนเนื่องจากอาจารย์ไปสัมนาทางวิชาการผู้บริหารสถานศึกษาและบุคคลากรทางการศึกษา เรื่อง"วิกฤติหรือโอกาสการศึกษาปฐมวัยไทยในเวทีอาเซียน"